facebook

กด Like เป็นกำลังใจให้กับ คลินิกสัตว์เลี้ยงชนิดพิเศษออนไลน์

วันพุธที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2553

Heat stroke ... ภัยเงียบ ที่ คิดไม่ถึง


สวัสดีครับ เข้าเดือนเมษายนทีไร ร้อนแทบขาดใจทุกที ไม่ว่าจะจากอากาศที่ร้อนจนเป็นสถิติใหม่กันไปแล้ว หรือจาก องศา ความรุนแรงทางการเมืองก็ตามแต่ พูดถึงอากาศที่ร้อนจัดในเดือนนี้ โรคที่หนีไม่พ้นก็คือ ฮีทสโตรก “Heat stroke “ หรือ ภาวะช็อคจากความร้อน ซึ่งพบได้แทบจะทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 2-3 ตัว เลยล่ะครับซึ่งอัตราการสูญเสียของโรคนี้ ค่อนข้างมากทีเดียวครับ เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว เรามารู้จักโรคนี้กันหน่อยดีกว่าครับ
Heat stroke นั้นเป็นโรคที่พบได้บ่อยมากในกระต่าย และ สัตว์ฟันแทะ โดยเฉพาะสัตว์ที่มีต้นกำเนิด จากเมืองหนาว เช่น ชินชิล่า คำถามที่พบบ่อยว่าทำไม ถึงเกิด Heat stroke ได้ง่ายในกระต่าย และสัตว์ ฟันแทะ อื่นๆ เนื่องจาก โดยปกติแล้ว กระต่ายเป็นสัตว์ ที่่ชอบอยู่ในที่มีอากาศเย็น สบาย และไม่ชอบที่ ที่มีอากาศร้อน เหตุผลเพราะว่า กระต่ายนั้น ไม่มีต่อมเหงื่อ และกระต่ายนั้น ไม่สามารถ ระบายความร้อนออกทางเหงื่อได้ครับ ทำให้ความร้อน ที่สะสมอยู่ในร่างกายกระต่ายนั้น เพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ จนถึงระดับหนึ่ง เมื่อสะสมไปมากๆ จะทำให้ร่างกาย รับความร้อนที่มากเกินไปไม่ไหว ทำให้ เกิดภาวะ ต่างๆ ที่ไม่พึงประสงค์ขึ้นมาครับ ภาวะนี้มีอาการหลักๆ ดังนี้ครับ
1.ซึมเบื่ออาหาร : อาการนี้ เป็นอาการที่ต้องบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นโรคอะไรก็แล้วแต่ อาการแรกที่แสดงออกมาก็คืออาการนี้ ดังนั้น เมื่อกระต่ายแสดงอาการนี้ออกมา ต้องรีบหาสาเหตุนะครับ ว่าแท้จริงนั้นเกิดจากอะไรกันแน่

2.มีอาการหายใจเสียงดัง : อาการนี้ต้องแยกให้ออกว่า เกิด จากปัญหาที่ปอด หรือว่า ที่ Heat stroke กันแน่ เสียงหายใจที่สังเกตุได้นั้น จะมีเสียงดัง แต่จะไม่ดังมาก และ ร่วมกับมีการหายใจทางจมูก โดยทำจมูก บานๆ ดูคล้ายๆ หายใจลำบาก และบางทีอาจจะหายใจจนตัวโยน เลยก็ได้ครับ

3.ขาหลังอ่อนแรง ทรงตัวไม่ได้ เดินเซ ตัวสั่น :อาการนี้เป็นอาการที่สังเกตุได้ค่อนข้างชัดเจนมากของโรคนี้นะครับ แต่เมื่อไหร่ก็แล้วแต่ที่สังเกตุนั่นหมายความว่า อาการของสัตว์เลี้ยงนั้น ค่อนข้างแย่แล้วนะครับ หลายครั้งที่สัตว์มาด้วยอาการนี้ แล้วทำการวัดไข้ มักจะพบว่า ไข้ขึ้นสูงไปมากกว่าที่ ปรอทจะวัดได้ (ปรอทวัดไข้ได้สูงสุด 42 องศา เซลเซียส)

4.น้ำลายไหลเปียกคาง : อาการนี้ก็เป็นอาการที่บ่งบอกได้เช่นกันว่า กระต่ายเริ่มมีภาวะ ฮีทสโตรก แล้ว แต่ที่สำคัญต้องแยกให้ออกว่า ไม่ใช่น้ำลายไหลเนื่องจากฟันกรามที่ยาวเกินไป

5.จับตัวแล้วร้อน : ปกติการแลกเปลี่ยนความร้อนในร่างกายกระต่ายนั้น จะเเลกเปลี่ยนความร้อนได้ดีที่สุดคือทางใบหู บางทีถ้าเราจับหู แล้วมีอาการเดี๋ยวเย็นเดี๋ยวร้อน นั่นหลายถึงอาจจะเป็นการปรับสมดุลความร้อนอยู่ก็เป็นได้ครับ แต่เมื่อเราจับบริเวณ ขาหนีบ หรือ ซอกรักแร้ หรือ บริเวณ หลังคอ แล้ว รู้สึกว่าร้อนกว่าปกติ นั้นอาจจะหมายถึง เริ่มมีปัญหากับความร้อนแล้วก็ได้นะครับ แต่วิธีที่ดีที่สุดก็คือการใช้ปรอทวัดไข้ผ่านทางทวารครับ โดยปกติแล้ว อุณหภูมิกระต่ายนั้น เมื่อวัดผ่านทางก้น ควรจะอยู่ที่ 38-40 องศาเซลเซียส ไม่ควรเกิน 40.5 องศาเซลเซียส ขึ้นไป ถ้าเกินกว่านี้ ถือว่าเข้าขั้น วิกฤต แล้วครับ

6.นอนนิ่งไม่ขยับ และ ช็อค ชักเกร็ง : อาการนี้เป็นอาการขั้นสุดท้ายของโรคนี้ ซึ่งเป็นอาการที่ไม่ว่าหมอ หรือ ผู้เลี้ยงคนไหน ก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น เนื่องจากเมื่อเกิดขึ้นแล้ว กระต่ายมักจะทนความร้อนที่ร้อนเกินไปไม่ไหว และร่างกายไม่สามารถที่จะ ควบคุม ตัวเองได้แล้ว อัตราการเสียชีวิต เมื่อมาถึงระยะนี้ต้องบอกว่า มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ แต่อย่างน้อย 10 เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือก็คือ โอกาสที่ต้องคว้าไว้ โดยการช่วยเค้าให้เต็มที่ ผมเชื่อว่าชีวิตก็ยังมีปาฎิหารเสมอครับ
เราก็ได้รู้จักอาการคร่าวๆกันไปแล้วนะครับ ว่าอาการที่มักแสดงออกนั้นประกอบด้วยอาการอะไรบ้าง คราวนี้เราดูวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนำส่งสัตวแพทย์ดีกว่าครับว่า เราจะช่วยเหลือ กระต่าย และช่วยเหลือหมอ อย่างไรได้บ้าง จุดมุ่งหมายของการรักษาเบื้องต้น คือ พยายามลดความร้อนลง โดยใช้วิธีที่ผมจะ เขียนต่อไปนี้
1.เมื่อรู้สึกว่า กระต่ายตัวร้อนให้หาน้ำ อาจจะใช้น้ำที่เย็นกว่าปกติเล็กน้อย (ห้ามน้ำเย็นจัดนะครับ) หรือ ใช้ แอลกอฮอล์ ผสม กับน้ำธรรมดา ในอัตราส่วน 1:1 ก็ได้ครับ ค่อยๆเช็ดบริเวณ ใบหู (สำคัญที่สุด) และ เช็ดบริเวณ ขาหนีบ
2.ทำการใช้สเปร์น้ำ ให้เป็นละออง เพื่อช่วยลดความร้อน ก็ได้ หรือ ใช้น้ำธรรมดา พรมลงไปให้ทั่วตัว

3.ใช้ผ้าขนหนูที่เปียกเช็ดตัวและ ห่อตัวไว้ จากนั้น อาจจะใช้ไดร์ที่เป็นลมเย็น เป่า เพื่อให้ความร้อนระเหยออกก็ได้

4.ค่อยๆป้อนน้ำเย็น หรือ จัดหาน้ำเย็น ให้กิน โดยสามารถใส่ กระบอก ถ้วย หรือ ป้อนโดยตรงก็ได้

5.รีบนำส่งสัตวแพทย์ เพื่อแก้ไขปัญหาต่อไป
สิ่งที่ห้ามคือ การ ลดอุณหภูมิด้วยน้ำเย็นจัด หรือใช้ แอลกอฮอล์ เพียวๆ (เดี๋ยวจะเมา^^) เพราะจะยิ่งทำให้ เส้นเลือดหดตัว ทำให้อุณหภูมิ ที่บริเวณหนังลดลง แต่อุณหภูมิ ที่อยู่ในร่างกาย เพิ่มมมากขึ้น วึ่งอาจจะทำให้อาการร้ายแรงขึ้นไปอีก
การป้องกันหลีกเลี่ยง ไม่ให้เกิด Heart stroke เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ และ ดีกว่าการรักษา เราสามารถทำได้โดย ให้ กระต่ายอยู่ในที่ ที่อากาศถ่ายเทสะดวก มีลมพัดผ่าน ถ้าอากาศร้อนมากจนเกินไป พยามยาม หาพัดลมมาให้ โดยให้ทำการเปิด ส่าย ไปมา และไม่ควรใช้ พัดลม ติดเพดาน แนะนำใหเใช้พัดลม ที่ตั้งพื้นจะเหมาะที่สุด หรือ หากมีพัดลมไอน้ำ อาจจะใช้่ร่วมด้วยในกรณีที่อากาศร้อนจริงๆ และไม่แนะนำให้ ใช้พัดลมไอน้ำ ตลอดเวลา เนื่องจากอาจจะทำให้มีปัญหาระบบทางเดินหายใจได้ครับ และในกรณีที่สามารถเปิด แอร์ให้ กระต่ายได้ แนะนำให้เปิดครับ เพราะจะช่วยทำให้กระต่ายสบายตัวขึ้นครับ
วันไหนที่ต้องระวังเป็นพิเศษ ในวันที่ความชื้นสูง ร่วมกับอาการร้อน โดยสังเกตุได้ง่ายๆจาก วันไหนที่เรารู้สึกอึดอัด กับอากาศ เหนียวตัว คล้ายกับอากาศในช่วงก่อนฝนจะตก ช่วงนี้แหละครับที่น่ากลัว เพราะเมื่อความชื้น ในกาศสูงมากๆ การระบายความร้อน ออกจากตัวจะยิ่ฝทำได้ยากขึ้น
เมื่อมาถึงมือสัตวแพทย์ ทีนี้ก็ขึ้นกับดุลยพินิจ ของคุณหมอแต่ละท่านว่า ควรจะทำสิ่งใดก่อนซึ่งการรักษานั้น ก็มีหลากหลายวิธี และไม่จำเป็นต้องให้การรักษา ทุกอย่างที่เขียนไป ขึ้นอยู่กับ กรณีๆ ไป ครับ
1. ลดอุณหภูมิร่างกายของกระต่ายลงโดยใช้วิธีการต่างๆ ดังที่กล่าวมาแล้ว
  1. ให้น้ำเกลือ อาจจะให้เข้าเส้นเลือด หรือใต้ผิวหนัง แล้วแต่อาการ
  2. ให้ยาลดไข้ หรือ ลดการบวม ของสมอง ขึ้นกับกรณี
  3. ให้ยาปฎิชีวนะ ซึ่งขึ้นกับกรณี เช่นกัน โดยอาจจะให้หรือไม่ให้ก็ได้
  4. ในกรณีที่เป็นมาก อาจจะต้องให้ ออกซิเจนร่วมด้วย
  5. ให้ยาขยายหลอดเลือด เพื่อช่วยทำให้การลดอุณหภูมิ มีประสิทธิภาพมากขึ้น หรือ ยาซึม เพื่อลดความเครียด ขณะ จับบังคับ หรือ เช็ดตัวสัตว์
นี่ก็เป็นแค่วิธีการคร่าวๆ และภาพรวมในโรคนี้ โดยบทความที่เขียนขึ้นนี้ เป็นเพียงแนวทางกว้างๆเท่านั้น ซึ่งในรายละเอียดแล้วอาจจะมีมากกว่านี้ อย่างน้อยสิ่งที่อยากให้เป็นประประโยชน์กับผู้เลี้ยงกระต่ายและสัตว์เลี้ยงชนิดอื่นๆ ก็คือ ลดโอกาส การป่วยและเสียชีวิต ของกระต่ายลง
มีกระต่ายจำนวนไม่น้อย ที่เสียชีวิตก่อนจะมาถึงมือหมอ เพียงแต่ เจ้าของสามารถ ปฐมพยาบาลเบื้องต้นได้ อาจจะเป็นการเพิ่มโอกาส ให้เค้ามีชีวิตรอดได้ และมี กระต่ายหลายตัวเหมือนกัน ที่เสียชีวิต ขณะทำการรักษา ผมในฐานะสัตวแพทย์ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเลย เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ ที่ทำให้ทุกคนต้องเศร้าและเสียใจ การป้องกันไม่ให้เกิด ดีกว่า การรักษา เชื่อผมเถอะครับ

ด้วยความปรารถนาดี
น.สพ.เชาวพันธ์ ยินหาญมิ่งมงคล


30 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะคุณหมอ ^ ^

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ18 เมษายน 2553 เวลา 20:51

    จะเอาความรู้นี้มาใช้กับชินชิล่าที่บ้านคะ แต่ตอนนี้สิ่งที่น่าห่วงสุดก็คือ คนที่เริ่มมาเลี้ยงชินชิล่า มักจะถูกหลอกจากคนขายว่า สามารถเลี้ยงพัดลมได้คะ สุดท้ายเอาไปเลี้ยงไม่กี่วันก็ตายหมด อยากให้คุณหมอช่วงแนะนำและให้ความรู้จริงๆกับคนที่จะเลี้ยงเค้าด้วยและบอกถึงความทรมานเวลาที่เค้าเกิด heat stroke จะได้เกิดสามัญสำนึกกันบ้างเวลาที่จะเอาเค้ามาลองเสี่ยงเลี้ยงพัดลมกัน รบกวนด้วยนะคะ

    ตอบลบ
  3. หมออ้อยคะขอแอบถามนิดนึงคะ ลาเต้มีน้องผู้ชาย 2 ตัว ถ้าเค้าหย่านมแล้วแหม่มจะเอาเค้าไปอยู่รวมกับพ่อของเค้าได้ไหมคะ ตัวผู้จะกัดกันไหมคะ แต่เค้าทั้งสามตัวสนิทกันนะคะ ให้เค้ารู้จักพ่อตั้งแต่เกิดคะพ่อก็รักลูกๆดี แต่แหม่มไม่รู้ว่าถ้าโตขึ้นตัวผู้จะดุุและกันกันเองหรือเปล่าคะ รบกวนตอบให้ด้วยนะคะ ขอบคุณคะ

    ตอบลบ
  4. โดยปกติ ถ้าเลี้ยงรวมกันแต่เด็ก ก็จะสามารถเข้ากันได้ดีครับ และปกติอีกเช่นกัน ผู้หญิงมักจะดุกว่าผู้ชาย (อันนี้ไม่รู้ว่าเหมือนคนรึเปล่า^^) ส่วนตัวผู้นั้นถ้าจะกัดกันเองมีปัญจัยหลักๆ อยู่คือ
    1> หวงอาณาเขต แต่ถ้าเลี้ยงรวมกัน ก็คือใช้อาณาเขตร่วมกัน แต่ถ้ามีตัวใด อยากขยายอาณาเขต เมื่อนั้นหมายความว่า เค้าจะต้องไล่ ตัวอื่นออกไป ก็อาจจะกัดกันได้ครับ

    2> ช่วงที่เป็นสัด เมื่อทุกตัวเป็นพร้อมเจริญพันธุ์ และมีตัวเมียที่เป็นสัดในบริเวณ ตอนนี้แหละครับ ที่ตัวผู้ทั้งหลาย อยากผสมพันธุ์ เค้าจะแสดงออกถึงความเป็นยอดชาย โดยหาผู้ชนะ ไม่รู้กี่ทิศ ก็จะกัดกันกระจายเลยครับ

    3> แย่งอาหารกัน อาจจะเกิดขึ้นมาได้ แต่ถ้าให้อาหารที่พอเพียง ก็ไม่ค่อยจะพบปัญหาครับ

    ตอบลบ
  5. ขอบคุณนะคะ วันหลังจะมารบกวนใหม่คะ ^^

    ตอบลบ
  6. หมออ้อย ค่ะ ชินของพี่จิ๋ว สโนว์เกิร์ลอ่ะค่ะ ที่เค้าอยู่เชียงใหม่
    เค้าโดนเสียแล้ว หมอเน ก็ผ่าแล้วด้วย เอ็มรบกวนหมออ้อย ถามหมอเนว่า
    เค้าเป็นอะไร แล้วเป็นเพราะอะไร เห็นพี่จิ๋วบอกว่า หมออ้อยรู้จักหมอเนด้วยใช่ไหมค่ะ เด๋วเอ็มมาถามใหม่นะ เอ็มกลับก่อน ม๊อบบุกแล้ว

    ตอบลบ
  7. ไม่ระบุชื่อ28 เมษายน 2553 เวลา 02:30

    สัวสดีคะหมออ้อย
    มีเรื่องรบกวนถามหน่อยคะ เรื่องของสโนเกิร์ลคะ ตอนนี้น้องเค้าได้ไปสบายแล้วคะ แต่ก็มีเรื่องสงสัยนิดหนึ่งว่า การที่เค้าเป็นแบบนี้นะเกิดจากสาเหตุอะไรนะคะ
    จะได้นำมาปรับปรุงการดูแลที่ เรายังต้องรับผิดชอบอยู่นะคะ หมอที่พาไปรักษาเค้าขอผ่าดูว่าเกิดจากอะไรนะคะ พอผ่าแล้วก็เห็นลำไส้หดไปรวมกันนะคะ และเมื่อหมอจับตรงกระเพาะอาหารนะคะแต่เปื่อยยุ่ยมากคะ และมีอาการเลือดจับตัวกันเป็นลิ่มคะ และมีน้ำในช่องท้องด้วยคะ ก่อนเสียชิวิต หมอฟังปอดด้านหนึ่งผิดปกติแล้วคะคือไม่ทำงานนะคะ มีการติดเชื้อในกระแสเลือดด้วยคะ
    และตอนนี้เค้าก็มีลูก 3 ตัวนะคะ ในกรณีีนี้ลูกมีโอกาสติดเชื้อจากแม่ไหมคะ และเค้าก็ดูดนมแม่ประมาณ 2 -3 วันคะ หมอสันนิฐานว่า ตับและไตจะไม่ค่อยดีนะคะ (ตัวแม่นะคะ) และโอกาสสืบพันธุ์กรรมถึงเด็กๆไหมคะ
    และอาการแบบนี้เป็นไปได้ไหมคะว่าเกิดจากการสะสมสารพิษนะคะ และอยากรบกวนอีกอย่างนะคะว่า การสะสมแบบนี้ต้องใช้เวลานานไหมคะ ถึงจะแสดงอาการออกมานะคะ
    รบกวนคุณหมอช่วยตอบด้วยคะ

    จาก จิ๋วคะ

    ตอบลบ
  8. หมอเนม หรือเปล่าครับ ถ้าหมอเนมผมรู้จักครับ แต่หมอ เน นี่ไม่คุ้นเท่าไหร่

    ลำไส้หดไปรวมกัน ต้องเห็นภาพครับถึงจะบอกได้ ส่วนหลังการต่ายสามารถพบลิ่มเลือดได้อยู่แล้วครับ กระเพาะอาหารที่เปื่อยยุ่ย ถ้า ผ่าหลังจากตายนานก็เป็น รอยโรคหลังการตายได้ครับ

    สารพิษถ้าฟังจากที่เล่าไม่ค่อยสงสัยครับ แต่อย่างว่ามันตรวจค่อนข้างยากครับว่าเป็นอะไรกันแน่

    Heat stroke เป็นได้ และน่ากลัว และมันอาจจะแสดงอาการอย่างค่อยๆเป็นก็ได้ครับ

    ลูกไม่น่าจะติดเชื้อจากแม่ครับ

    ตอบลบ
  9. ไม่ระบุชื่อ11 พฤษภาคม 2553 เวลา 02:50

    สัวสดีคะ
    มีเรื่องรบกวนถามข้อมูลเกี่ยวกับเจอร์บัวหน่อยคะ
    1) สัตว์ชนิดนี้มีเชื้ออะไรไหมคะ พอดีพึ่งซื้อมาเลี้ยงนะคะ

    2) โรคที่ต้องระวังเกี่ยวกับเจอร์บัวมีอะไรบ้างคะ และเค้ามีอายุยื่นไหมคะ

    พอดีลองหาข้อมูลแล้วไม่ค่อยเยอะนะคะ เลยอยากรบกวนหมอแนะนำหน่อยคะ

    รบกวนหมอช่วยหาข้อมูลให้หน่อยยนะคะ

    ตอบลบ
  10. เจอร์บัว นั้นเป็นสัตว์ในกลุ่ม rodent ดังนั้นเชื้อโรคต่างๆที่พบได้ คล้ายกันครับ แต่ถ้าเราดูแลจัดการสุขภาพสัตว์ให้ดีๆ จัดการกรงเลี้ยงให้สะอาดอยู่เสมอ

    โรคที่ต้องระวังคือ ท้องเสีย ปอดบวม และ ฮีทสโตรกครับ ที่เจอได้บ่อยๆ ในเจอบัวนะครับ

    อายุขึ้นกับสายพันธุ์ ครับ ถ้าเป็น Five-toed ก็ประมาณ 5-6 ปีครับ แต่โดยส่วนใหญ่ของคนไทยเลี้ยงอาจจะสั้นกว่าได้ครับ

    ตอบลบ
  11. สัวสดีอีกครั้งคะ
    รบกวนถามหมออีกหน่อยคะ อาหารที่ให้เค้าทานได้มอะไรบ้างคะ พอดีไม่เคยเลี้ยงมาก่อนเลยคะ และหากที่บ้านเลี้ยงชินชิลานะคะ มีเชื้อบางตัวที่จะไปติดต่อชินไหมคะ พอดีซื้อมาคนขายเค้าบอกว่าให้ทานอาหารหนูแฮมเตอร์นะคะและก็ให้ผักสดทุกชนิดได้นะคะ แล้วเค้าบอกว่าให้อาหารแมวด้วยนะคะ เลยสงสัยว่า เค้าเป็นสัตว์ที่ทานจำพวกแมลงไหมคะ เอาให้เค้าแล้วไม่เห็นเค้ากินเท่าไรเลยคะ นอกจากผักกาดหอมนะคะ และเม็ดทานตะวันนะคะ ทางร้านบอกว่าไม่จำเป็นต้องให้น้ำเค้าเพราะเค้าอยู่ทะเลทรายนะคะ ต้องการน้ำจากผักเพียงเล็กน้อยนะคะ อยากรบกวนหมออ้อยแนะนำเรื่องการกินด้วยคะ การเลี้ยงดูนะคะว่ามีอะไรพิเศษไหมคะ เพราะไปหาข้อมลูแล้วมีน้อยมากเหมือนคนไม่ค่อยนิยมเลี้ยงนะคะ แล้วเค้ามีช่วงฤดูผสมพันธ์ตอนไหนคะ เวลามีลูกแล้วเค้าออกที่ละกี่ตัวคะ
    รบกวนหมออ้อยช่วยตอบด้วยนะคะ ขอขอบคุณลวงหน้าเลยคะ

    จาก จิ๋วคะ

    ตอบลบ
  12. อาหารที่ให้ทาน ให้ได้เช่นเดียวกับหนูแฮมสเตอร์ครับ เพราะเป็นสัตว์ที่อยู่ในตระกูลใกล้กันครับ ส่วนผักสดนั้นไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ในช่วงแรหครับ เพราะอาจจะทำให้ท้องเสียได้ครับ
    ส่วนน้ำนั้น ควรจะมีไว้เพราะช่วงนี้อากาศร้อนมากครับ ส่วนข้อมูลอื่นๆ ไว้ผมจะหามาให้นะครับ เพราะข้อมูลเค้าน้อยจริงๆนั่นแหละครับ

    หมออ้อย

    ตอบลบ
  13. ไม่ระบุชื่อ16 พฤษภาคม 2553 เวลา 11:00

    How's about hamster ka? How to know if they are undr heat strok. If they have heat strok , how to do before going to see doctor?

    Ps.Dr.Aoy, you can answer in Thai ka. I'm Thais but my mb is difficult to type in Thai.
    Thank in advance.

    Anne

    ตอบลบ
  14. ไม่ระบุชื่อ16 พฤษภาคม 2553 เวลา 11:06

    ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ เดี๋ยวว่างๆ แล้วจะกลับมาอ่านเรื่องอื่นต่อ

    อยากปรึกษาว่า กระต่ายเลี้ยงมา 4 ปีแล้ว ควรดูแลอะไรเป็นพิเศษรึป่าว
    จะถือว่าเป็นกระต่ายแก่ได้รึยัง ไม่เคยพาไปตรวจสุขภาพเลย เคยพาไปหาหมอแค่ครั้งเดียว (ตอนนั้นตาแฉะ)แต่ดูภายนอกก็ปกติดี ดุอยู่เหมือนเดิม เหมือนจะดุขึ้นมากด้วย จะเกี่ยวกับที่ยังไม่เคยมีแฟนรึป่าว (เป็นผู้หญิง)

    ขอรบกวนเท่านี้ก่อนคะ แล้วจะมารบกวนอีกบ่อยๆ ขอบคุณมากนะคะ

    จาก ... อ้น ^^

    ตอบลบ
  15. หมออ้อยค่ะ มีเรื่องปรึกษานิดนึง คือชินชีล่าที่เคยพาไปตรวจติดเชื้อโปรโตซัว พอให้ยาแล้วสังเกตุเห็นเค้ากินน้อยลงจนแทบไม่กินเลยอย่างนี้ป้อน critical care ได้เลยหรือหยุดยาค่ะแล้วพากลับไปหาหมอค่ะ

    ตอบลบ
  16. ตอบคุณ Anne ก่อนนะครับ

    เวลาสัตว์เป็น Heat stroke สิ่งแรกที่ต้องสังเกตุก่อนก็คือ ว่าเค้ายังโอเคหรือเปล่า ทานอาหารได้มั้ย ยัง ร่าเริงอยู่ หรือ หยุดกินแล้ว ...

    อาการที่สังเกตุเองได้ง่ายที่สุดเวลาเป็น heat stroke คือ น้ำลายไหล จับตัวจะร้อยโดยเฉพาะซอกขาหนีบ ต้นคอ และอาจจะรวมไปถึงที่หูด้วย

    การปฐมพยาบาลเบื้องต้นนั้น ต้องรีบลดความร้อน แต่ห้ามใช้น้ำแข็งครับ ให้ค่อยๆเช็ดตัว ให้อุณหภูมิค่อยๆลง สามารถทำได้ขณะเดินทางมาหาสัตว์แพทย์ครับ และให้อยุู่ในที่อากาศถ่ายเท และเย็นครับ

    ส่วนแฮมสเตอร์ที่ผ่าคลอด ปลอดภัยดีครับ ^^

    คุณอ้นครับ กระต่ายสี่ปี เทียบให้ภาพก็คือคนอายุประมาณ 45 ปีครับ ไม่ถือว่าแก่ ไม่ถือว่าหนุ่ม เป็นวัยกลางๆกระต่ายครับ การตรวจสุขภาพเมื่อกระต่ายอายุ 4 ปีขึ้นไปแนะนำตรวจร่างกาย ปีละ 1-2 ครั้งครับ โดยทำการตรวจเลือด เพื่อเช็คสุขภาพเบื่องต้น โดยจะเช็คโรคตับ โรคไต และดูเรื่อง การสร้างเม็ดเลือดแดง และเกร็ดเลือดครับ

    การดูแลควรเรื่องอาหารเน้นหญ้าเยอะๆครับ อาหารเม็ดลดปริมาณลงหน่อย และให้ระวังเรื่องอากาศร้อน และที่สำคัญ กระต่ายเพศเมียที่ยังไม่ได้ทำหมัน และ เกิน 2 ปีควรจะระวังเรื่องมดลูกขยายใหญ่จากน้ำ หรือมะเร็ง ครับ ถ้้าสามารถทำหมันได้ก็ควรจะทำหมันครับ

    ตอบลบ
  17. คุณอิ๋ว.. ถ้าชินทานอาหารน้อยลงควรจะต้องป้อนครืติคอล แคร์ด้วยครับ แลเวถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นควรพาเข้ามาตรวจซ้ำอีกทีครับ

    ปล.พยายามป้อนอาหารและน้ำให้ได้นะครับ

    ตอบลบ
  18. ไม่ระบุชื่อ22 พฤษภาคม 2553 เวลา 01:19

    ขอบคุณมากคะหมออ้อย ขอถามเพิ่มเรื่องทำหมันคะ
    กระต่ายจะเจ็บมากไหม และต้องใช้เวลาพักฟื้นนานรึเปล่า ต้องทำแผลทุกวันรึเปล่า พอดีไม่มีรถส่วนตัว และบ้านอยู่ลึกมาก ต้องทั้งเดิน ซ้อนมอไซค์รับจ้าง ถึงจะได้ขึ้นแท็กซี่ (นี่ยังอยู่ใน กทม. นะคะ) ^^'

    อ่อ แล้วที่เคยได้ยินว่า ทำหมันต้องวางยาสลบ ถ้ากระต่ายโตแล้ว มีสิทธิ์ที่จะไม่ฟื้นนี่จริงรึป่าวคะ

    ขอบคุณมากนะคะ
    อ้น

    ตอบลบ
  19. http://seaconpetclinic.makewebeasy.com/content-ทำหมันกระต่ายดีมั๊ย-4-65-1190-1.html

    ลองเข้าไปอ่านบทความที่ผมเคยเขียนไว้นะครับ

    เจ็บหรือเปล่า ก็เจ็บนะครับ แต่ ว่าเราควบคุมโดยการให้ยาลดปวดได้ครับ จากเจ็บเหมือนโดนมีดบาด อาจจะเจ็บเหมือนโดน มด(ยักษ์)กัดครับ

    การผ่าตัดต้องวางยาสลบครับ ซึ่งถ้าเป็นไปได้ การใช้ ยาสลบแบบดม ก็จะปลอดภัยกว่าแบบฉีดครับ

    ตอบลบ
  20. ชินชีลล่า ถ่ายเป็นเหมือนดินน้ำมันค่ะ แบบว่านิ่มๆแต่ยังเป็นก้อนอยู่ 2 ตัวนี้เลี้ยงมานานแล้วอยู่ๆเค้าจะติดเชื้ออะไรได้บ้างไหมค่ะ หรือทำแบบกระต่ายคืองดอาหารแล้วให้กินแต่หญ้าแห้งก่อนอย่างเดียว หรือควรรีบนำไปตรวจค่ะ
    ปล.น้องยังกินได้ ร่าเริง ปกติอยู่ค่ะ

    ตอบลบ
  21. คือหมออ้อยค่ะหนูเปงเด็กมหาลัย และเช้าบ้านยุเลี้ยงกระต่ายยุตัวนึง อยากทราบว่าควรทำไงให้กระต่ายมีอุณภูมิที่เหมาะสมค่ะพอดีจะไว้หลังห้องตรงที่ตากผ้าหลังบ้านก็ไม่ดีเพราะช่วงกลางคืนจะเย็นกลางวันจะร้อนมากค่ะเลยไว้ในบ้าน แต่ยังกลัวๆว่าอุณภูมิจะยังไม่เหมาะกับน้อง

    ตอบลบ
  22. หมอค่ะ วันนี้กระต่ายโดนมีดบาดค่ะ เป็นแผลใหญ่เลย แต่เลือดออกแบบซึมๆ เหมือนโดนแค่ตรงหนังค่ะ แล้วหนูก้อทาเบตาดีนให้ มันจะตายหรือป่าวค่ะ ต้องพามันไไปเย็บหรือป่าวค่ะ แล้วจะทำยังไงดีค่ะ หนูเครียดมากเรย

    ตอบลบ
  23. เจอรี่ มันแล นิ่งๆ และก้อหายใจแรง มันจะเป็นอรัยไหมค่ะ

    ตอบลบ
  24. ไม่ระบุชื่อ7 ตุลาคม 2557 เวลา 08:51

    เวลากระต่ายร้อนจะเกิดอาการช๊อครึป่าวค่ะ???

    ตอบลบ
  25. ไม่ระบุชื่อ7 ตุลาคม 2557 เวลา 08:53

    ฮาตสโตคร์เคยได้ยินค่ะ

    ตอบลบ
  26. ไม่ระบุชื่อ25 มกราคม 2558 เวลา 02:56

    กระต่ายของหนูเพิ่งตายจากโรคนี้ไปเมื่อ ๑๓ ตุลา ๕๗ นี้เองค่ะ T T

    ตอบลบ
  27. คุณหมอคะพอดีกระต่ายทำเสียงเหมือนจามหรือสำลักอะไรสักอย่างอ่าค่ะ น้องอายุแค่2เดือนครึ่งเองค่ะ
    เป็นมาได้สองสามวันแล้ว แต่ยังร่าเริง วิ่งเล่น กินจุเหมือนเดิมค่ะ ไม่มีน้ำมูก เท้าไม่เปียก
    ไม่ทราบว่าคุณหมอพอจะมีคำตอบไหมคะว่าน้องเป็นอะไรกันแน่ ผิดปกติไหมคะ

    ตอบลบ
  28. กระต่ายหนผุตายแล้ว เขาชักแล้วเดินเซๆ แล้วเค้าก้อมานอนเหมบลง แล้วชักอีกจนเขาแข็ง หนูเสียใจมากค่ะ

    ตอบลบ
  29. พึ่งซื้อกระต่ายมา 4 วัน แล้ว 2-3 วันแรกปกติน่ะค่ะ กิน นอน ขี้ ก็ปกติอะค่ะ แล้วพอมาวันที่4 ตอนเช้า คือวันนี้อะค่ะ กระต่ายไม่ยอมเดินอะค่ะ คอตก เหมือนไม่มีแรง มันพยายามลุกเดินน่ะค่ะแต่มันลุกไม่ได้ มันเป็นอะไรถึงตายหรอค่ะ

    ตอบลบ
  30. ขอสอบถามหน่อยคะ ไม่รู้จะไปหาข้อมูลที่ใหนแล้ว พอดี พี่ชายเอาเอวม่อนให้หนูแฮมเตอร์กิน แล้วผ่านไป20นาทีกลับมาเห็นหนูนอนนิ่งแอวม่อนเต็มกระพุงแก้มเลยดันออกมาพอแอวมอนหลุดออกจากปากหนูก็เหมือนค่อยๆได้สติและหลังจากนั้นก็เดินเซเหมือนควบคุมตัวเองไม่ได้กลิ่งไปมาเอาแต่นอน เป็นเพราะอะไรค๊แล้วรักษายังไงถึงจะหายค๊ ขอความรูหน่อยนะค๊สงสารมากพยายามหาข้อมูลก็ไม่ตรงจะไปโรงบาลก็ไม่มีงบพอเลยค๊ ขอบคุณนะค๊

    ตอบลบ